Raja Ampat สุดยอดเกาะของการดำน้ำ

หมู่เกาะราชาอัมพัท (Raja Ampat Islands) ประเทศอินโดนีเซีย สวรรค์ของผู้ที่รักการดำน้ำท่องโลกใต้ทะเล หมู่เกาะเล็กๆนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะอิเรียนจายา โดยชื่อของหมู่เกาะราชาอัมพัทในภาษาอินโดนีเซีย มีความหมายว่า "ราชา 4 พระองค์" นั่นเอง ซึ่งได้แก่ เกาะมิซูล (Misool) เกาะซาลาวาดิ (Salawati) เกาะบาตันตา (Batanta) และเกาะไวเกียว (Waigeo) เป็นเกาะหลักทั้ง 4 เกาะ และหมู่เกาะแห่งนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากใต้ท้องทะเลมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต มีดินแดนสามเหลี่ยมปะการังที่มีความอุดมสมบูรณ์ นับเป็นแหล่งที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติอันสวยงาม

อ่านวิธีการเดินทางและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : หมู่เกาะราชาอัมพัท

(Raja Ampat Islands)
หมู่เกาะราชาอัมพัท สวรรค์ของผู้ที่รักการดำน้ำ

Mount Bromo พาไปชม.. ลมหายใจของเทพเจ้า


ภูเขาไฟโบรโม (Bromo)
ภูเขาไฟโบรโม (Bromo)
ภูเขาไฟโบรโม (Bromo) ประเทศอินโดนีเซีย สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและเป็นที่หมายของใครหลายๆคน แม้ภูเขาไฟโบรโม่จะไม่ใช่ภูเขาไฟที่สูงที่สุด แต่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพราะด้วยความสูงที่ไม่มากจึงเดินทางได้สะดวก ระหว่างทางอาจมีหมอกควันและเถ้าถ่าน เนื่องมาจากภูเขาไฟแห่งนี้ยังไม่ดับสนิท และเคยระเบิดมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือขี่ม้าขึ้นไปได้ แต่ม้าจะไปส่งได้ถึงแค่ไหล่เขาเท่านั้น นักท่องเที่ยวจะต้องเดินต่อขึ้นไปปากปล่องภูเขาไฟเอง กิจกรรมที่ฮิตที่สุดคือ การโยนดอกไม้ลงไปในปากปล่องภูเขาไฟเพื่อขอพร เพราะมีความเชื่อที่ว่า หากซื้อดอกไม้จากชาวบ้านที่นำขึ้นมาขาย แล้วอธิษฐานถึงสิ่งที่ปรารถนา จากนั้นโยนลงไปในปากป่องภูเขาไฟ จะทำให้สมดังปรารถนา และยังเป็นกิจกรรมที่คู่รักนิยมมาทำกันอีกด้วย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bromo ได้ที่ : ภูเขาไฟโบรโม 

เที่ยวไทเป..เมืองศูนย์กลางของไต้หวัน

กลับมาอีกครั้งกับเรื่องของการท่องเที่ยวในไต้หวัน วันนี้จะมาขอเจาะเฉพาะการท่องเที่ยวไทเป เพราะเมืองหลักๆ ที่คนไทยนิยมไปกันเมื่อไปเยือนไต้หวันก็คือไทเปนั่นเอง เราจึงรวบรวมข้อมูลดีๆ มาฝากสำหรับคนที่คิดจะไปเที่ยวไทเปด้วยตัวเอง ทั้งเรื่องของวิธีการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำของแต่ละย่านที่ไม่ควรพลาด

เที่ยวไทเปด้วยตัวเอง คู่มือการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวแนะในไทเป



การเดินทางจากสนามบินเถาหยวนเข้าเมืองไทเป

รถบัส - เป็นวิธีที่สะดวกและประหยัด นั่งรถต่อเดียวถึงไทเปเลย และยังมีรถวิ่งตลอดทั้งคืน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง มีข้อเสียคือบางทีอาจเจอรถติดก็จะทำให้เสียเวลานิดหน่อย หรือคนเยอะต้องต่อแถวรอขึ้นรถนาน

Shuttle bus + THSR - รถบัสมาต่อรถไฟความเร็วสูงที่สถานีเถาหยวน เป็นวิธีที่รวดเร็วไม่ต้องกลัวรถติด ข้อเสียคือจะต้องขนกระเป๋าขึ้นลงสองรอบ และราคาแพงกว่านั่งรถบัสอย่างเดียว

แท็กซี่ - สะดวกรวดเร็วมากที่สุด ส่งตรงถึงหน้าโรงแรมและมีรถวิ่งตลอด 24 ชั่วโมง แต่ราคาแพงกว่าวิธีอื่นๆ หลายเท่า ถ้าเดินทางหลายคนจะคุ้ม


มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในไทเปกันบ้าง ไทเปมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่วัดเก่าแก่ ธรรมชาติสวยๆ ไปจนถึงตึกทันสมัย ซึ่งจะขอแนะนำแต่ละสถานที่เป็นย่านๆ ไป ดังนี้

ย่านจงเจิง (Zhongzheng District)

1. อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค (National Chiang Kai-shek Memorial Hall)

อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค

สร้างเพื่อรำลึกถึงเจียงไคเช็ค ประธานาธิบดีผู้เป็นที่รักและศรัทธาของชาวไต้หวัน เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวาง ที่นี่จึงถูกใช้เป็นที่จัดกิจกรรมและพิธีสำคัญๆ ต่างๆ มากมาย


ย่านว่านหัว (Wanhua District)

 1. วัดหลงซาน (Longshan Temple)


วัดหลงซาน

วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไต้หวันส่วนใหญ่ให้ความนับถือ สร้างตั้งแต่ปี 1783 เก่าแก่ที่สุดในไทเปและยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของไทเปที่ต้องไปเยือน ใกล้ๆ กับวัดยังมีตลาดกลางคืนขายอาหารอีกด้วย



ย่านต้าถง (Datong District)

1. ท่าเรือต้าเต้าเฉิง (Dadaocheng Wharf)


ท่าเรือต้าเต้าเฉิง

ท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำตั้นสุ่ยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไทเป เพราะเป็นทั้งจุดปั่นจักรยามริมแม่น้ำตั้นสุยและที่ขึ้นเรือสำหรับทัวร์แม่น้ำตั้นสุย

ย่านซินยี่ (Xinyi District)

 1. Taipei 101


Taipei 101

ตึกไทเป 101 เป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทเปเลยก็ว่าได้ ถ้าไปเที่ยวไทเปแล้วไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึง ภายในเป็นทั้งอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้าและจุดชมวิวเมืองไทเป บริเวณตึกไทเป 101 เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าหลากหลายแห่งซึ่งสามารถเดินจากตึกไทเป 101 ไปได้

2. เส้นทางปีนเขาช้าง (Xiangshan (Mt. Elephant) Trail)


เส้นทางปีนเขาช้าง

เป็นเส้นทางปีนเขาขึ้นไปยังจุดชมวิวเมืองไทเป และเป็นจุดถ่ายภาพสวยๆ ของตึกไทเป 101 เป็นมุมยอดฮิตเลยก็ว่าได้ จุดชมวิวมีสองจุดหลักๆ จุดแรกใช้เวลาราว 15-30 นาทีแล้วแต่ความเร็วของแต่ละคน หากต้องการขึ้นต่อไปยังจุดที่สองต้องเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

ย่านซือหลิน (Shilin District)

 1. พิพิธภัณฑ์กู้กง (National Palace Museum)


พิพิธภัณฑ์กู้กง

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของไต้หวันที่จัดเก็บสิ่งของสำคัญทางประวัติศาสตร์ งานศิลปะ โบราณวัตถุล้ำค่า 6 แสนกว่าชิ้นที่นำมาจากประเทศจีน โดยจะจัดแสดงสลับหมุนเวียนกันไปทุกๆ3-4 เดือน


3. ตลาดกลางคืนซือหลิน (Shilin Night Market)


ตลาดกลางคืนซือหลิน

ตลาดกลางคืนที่คนนิยมไปมากที่สุดในไทเป ที่นี่คุณสามารถหาอาหารท้องถิ่นไต้หวันได้เกือบทุกเมนู ตลาดจะเริ่มเปิดขายอาหารริมถนนกันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไปจนถึงเที่ยงคืน นอกจากอาหารแล้วยังมีเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ ขายในราคาถูกด้วยเช่นกัน


เข้าดูแหล่งที่ท่องเที่ยวสวยๆอีกเพียบได้ที่ เว็บไซต์ govivigo

Namiseom สัมผัสบรรยากาศแสนโรแมนติก

เกาะนามิ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในเกาหลี ตั้งอยู่กลางทะเลสาปชองเพียง (Cheongpyeong Lake) ในเขตเมืองชุนซ็อน เกาะนี้โดดเด่นในเรื่องของทัศนียภาพที่สวยงาม บนเกาะจะมีบรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นสน ต้นเมเปิ้ล ต้นซากุระ ต้นแปะก๊วย และต้นไม้อื่นๆอีกมากที่พากันเปลี่ยนสีอย่างสวยงาม นับเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องมาจาก เกาะนามิแห่งนี้ เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ยอดฮิตอย่าง 'Winter Sonata” (เพลงรักในสายลมหนาว) ทำให้สาวกซีรี่ย์เกาหลีหลั่งไหลมาเที่ยวกันอย่างล้นหลาม ด้วยความที่บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกแล้วที่นี่จึงเป็นที่นิยมสำหรับคู่รักที่พากันมาใช้เวลาร่วมกัน นอกจากนี้บนเกาะยังมีบริการจักรยานให้เช่า ร้านกาแฟ แกลเลอรี่ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : เกาะเล็กๆที่แสนโรแมนติก

Namiseom เกาะเล็กๆที่แสนโรแมนติก
Namiseom เกาะเล็กๆที่แสนโรแมนติก


ช่วงเวลาที่ดี: เที่ยวได้ทั้งปี แต่หลีกเลี่ยงช่วงสุดสัปดาห์ 

  • ปลายมีนาคม - พฤษภาคม จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ

  • มิถุนายน - สิงหาคม จะเป็นหน้าร้อน และฝน

  • กันยายน - พฤศจิกายน จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง (High Season)

  • ธันวาคม - กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงหน้าหนาว หิมะปกคลุมทั่วพื้นที่

ที่ตั้ง: เกาะนามิ ,คังวอน , เกาหลีใต้

วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินลงสถานี Sangbong Station (line No.7) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้น Gyeongchun line โดยลงที่สถานี Gapyeong (Nami Island) จากนั้นต่อ TAXI ที่หน้าสถานี มาท่าเรือนามิ (เรือบริการ 7.30 น. - 21.45 ออกทุกครึ่งชั่วโมง)

วีซ่า: เที่ยวเกาหลีใต้ 90 วันไม่ต้องขอวีซ่า




Gyeongbok Palace พระราชวังแห่งพรที่ส่องสว่าง

พระราชวังคยองบก (Gyeongbok Palace)  หรือ พระราชวังเคียงบก เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ในภาษาเกาหลี ความหมายของ 'คยองบกกุง' แปลว่า พระราชวังแห่งพรที่ส่องสว่าง และ พระราชวังทิศเหนือ (Northern Palace) ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งของพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เมื่อเทียบกับพระราชวังแห่งอื่นๆ นับว่าเป็นพระราชวังที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของราชวงศ์โชซอน ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและยิ่งใหญ่มาก เมื่อเดินไปรอบๆจะพบส่วนหย่อมที่ให้ความรู้สึกร่มรื่น ภายในพระราชวังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี (National Folk Museum of Korea) ที่บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยราชวงศ์โชซอน นอกจากนี้เรายังสามารถชมพิธีการเปลี่ยนเวรราชองค์รักษ์ ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี่อีกด้วย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : พระราชวังคยองบก


Gyeongbok Palace พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโชซอน
Gyeongbok Palace พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโชซอน


▶ ที่ตั้ง: 161 Sajik-ro, South Korea

▶ วิธีเดินทาง: เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสายที่ 3 สีส้ม ให้ลงที่สถานีคยองบกกุง และออกที่ประตู 5

▶ เวลาเปิด – ปิด: 9.00น.-18.00น.

▶ ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3,000 วอน / เด็ก 1,500 วอน

▶ วีซ่า: เที่ยวไม่เกิน 90 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า

ที่เที่ยวหน้าฝนทั่วไทย ชมทะเลหมอก โอบกอดป่าเขียว

มีหลายคนถามกันมาว่าหน้าฝนเที่ยวไหนดี? เมื่อพูดถึงที่เที่ยวหน้าฝนต้องนึกถึงป่าเขียวขจีที่ดูชุ่มฉ่ำ ทะเลหมอกหนาๆ ที่ลอยฟุ้ง เป็นบรรยากาศดีๆ ที่หาไม่ได้จากฤดูไหน ใครชอบท่องเที่ยวธรรมชาติรับรองไม่ผิดหวัง กับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยที่ไม่ควรพลาด ทั้งป่า ภูเขา น้ำตก มาครบ เรามาดูกันดีกว่ากว่าหน้าฝนมีที่ไหนบ้าง รอให้เราไปเที่ยว

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : 10 ที่เที่ยวหน้าฝนทั่วไทย ชมทะเลหมอก โอบกอดป่าเขียว

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (จังหวัดอุตรดิตถ์, จังหวัดพิษณุโลก)


หากพูดถึงภูสอยดาวช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือบริเวณลานสนสามใบภูสอยดาว ที่มีทุ่งดอกไม้บานสะพรั่งสวยงามท่ามกลางหมอกขาว ทั้งดอกหงอนนาคสีม่วง ดอกสร้อยสุวรรณาสีเหลือง และดอกหญ้ารากหอมสีม่วงเข้ม ยังมีน้ำตกให้ได้เที่ยวอีกด้วย เช่น น้ำตกภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว


อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (จังหวัดเลย, จังหวัดพิษณุโลก, จังหวัดเพชรบูรณ์)


อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ารวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงหน้าฝนจะได้สัมผัสทั้งอากาศเย็นสบายและหมอกที่ลอยฟุ้งไปทั่วเลยทีเดียว ความสวยงามไม่ได้มีแค่นั้น ราวเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมบริเวณลานหินแตกและลานหินปุ่ม จะถูกปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งมอส กล้วยไม้ ดอกไม้ แต่ที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดก็คือดอกเปราะภู บริเวณลานหินปุ่มที่ออกดอกสีขาวไปทั่วบริเวณ

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า


ภูทับเบิก (จังหวัดเพชรบูรณ์)


เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ขึ้นชื่อเรื่องทะเลหมอกสีขาวที่ตัดกับยอดภูสีเขียว และไร่กะหล่ำปลีที่มองรวมกันแล้วสวยงามสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ทะเลหมอกจะดูหนานุ่มเป็นพิเศษ ใครมาเที่ยวก็ต้องติดใจกับวิวเหนือเมฆที่เห็นได้แบบ 360 องศา พูดได้ว่าเหมือนยืนอยู่บนท้องฟ้า แค่ออกจากที่พักก็เห็นทะเลหมอกอย่างเต็มอิ่มได้แล้ว

ภูทับเบิก
ภูทับเบิก


อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (จังหวัดชัยภูมิ)


อุทยานแห่งชาติป่าหินงามในช่วงฤดูฝนคือตั้งแต่ช่วงมิถุนายน-สิงหาคม นักท่องเที่ยวจะได้ชมทุ่งดอกกระเจียวที่เบ่งบานไปทั่วตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน ดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วงขึ้นตัดกับสีเขียวของต้นหญ้า เป็นหนึ่งในช่วงที่สวยงามและน่าไปเที่ยวมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม


เขาค้อ (จังหวัดเพชรบูรณ์)


ว่ากันว่าเขาค้อสวยที่สุดในฤดูฝน ทั้งทะเลหมอกที่ลอยฟุ้ง ความเขียวขจีของภูเขาและอากาศเย็นสบาย ทำให้เขาค้อเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตช่วงหน้าฝนที่จะไม่ทำให้ผู้มาเยือนผิดหวัง ที่พักบนเขาค้อก็มีให้เลือกหลายแห่ง สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ 10 ที่พักเขาค้อ วิวดีๆ หมอกเน้นๆ

เขาค้อ
เขาค้อ

เกาะเชจู สวรรค์ของคนชอบเที่ยว


เกาะเชจู นับว่าเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆในเกาหลี เกาะเชจูยังเป็นเขตมรดกโลก มีสภาพภูมิศาสตร์และภูมิประเทศที่น่าสนใจชวนให้ไปเที่ยว เนื่องจากว่าเป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของปล่องภูเขาไฟทำให้มีธรรมชาติสวยงาม มีมหัศจรรย์ถ้ำลาวา และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอื่นๆ อีกมากมายหลายแห่ง ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติก ชาดหาดที่สวยงาม จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คู่รักนิยมมาฮันนีมูนกัน และสภาพอากาศที่อบอุ่นสบายทำให้ชายหาดของเกาะเชจูเป็นสวรรค์สำหรับทั้งผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางทะเล

เข้าดูข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะเชจูได้ที่ : เชจู เกาะที่สวยที่สุดในเกาหลี
เชจู เกาะที่สวยที่สุดในเกาหลี



▶ สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ


  • โขดหินยงดูอัม อยู่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของเชจู เป็นหินภูเขาไฟรูปทรงคล้ายมังกรกำลังอ้าปาก การเดินทาง ขึ้นรถประจำทางสาย 36, 37, 300, 500 หรือ 887 มาลงที่ยงดูอัมโรตารี่ แล้วเดินอีก 10 นาที



  • พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้านและธรรมชาติวิทยา เชจู จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน ไม้พันธุ์ต่างๆ สัตว์และแร่ธาตุซึ่งพบได้ตามธรรมชาติในเชจูโด การเดินทาง นั่งรถประจำทางไปลงที่ โรงแรมเคเอแอล (ใช้เวลาเดินจากโรงแรม 10 นาที)



  • อุทยานแห่งชาติภูเขาฮัลลาซาน ประกอบดูภูเขาไฟสูงตะหง่าน ทุ่งนา ทุ่งดอกไม้ หมู่บ้านเล็กๆและโรงแรมบนหาดทรายขาวสะอาด



  • ปากปล่องภูเขาไฟซานกึมบูรี หนึ่งในปากปล่องภูเขาไฟทั้งสามแห่งบนเกาะเชจู เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปดที่ยวคือฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ร่วง การเดินทาง นั่งรถประจำทางไปเพียวซอน ประมาณ 40 นาที และลงที่ซานกึมบูรี



  • ถ้ำมานจังกุล ถ้ำที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของลาวาที่ยาวที่สุดในโลก การเดินทาง นั่งรถประจำทางสายอิลจูโดโรจากท่ารถเชจู ลงที่กิมเนียง เดินอีก 30-40 นาที



  • ชงซานโพ หมู่บ้านเล็กๆสุดปลายด้านตะวันออกของเกาะ ซึ่งมีภูเขาไฟซองชาน อิลชุลบง อยู่บนเกาะ หากปีนขึ้นไปบนปากปล่องภูเขาไฟ จะเห็นทิวที่กว้างไกล ยิ่งตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะสวยเป็นพิเศษ การเดินทาง รถประจำทางสายอิลจู โดโร ทงฮอซอน ไปยังซองซานรี ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง



  • ซอพจิโกจิ ทุ่งหญ้ากว้างติดทะเล เป็นสถานที่ถ่ายหนังและละครหลายเรื่อง การเดินทาง รถประจำทางสายอิลจู โดโร ทงฮอซอน ถึงโกซอง-ริ แล้วต่อแท็กซี่



  • อุทยานเขาวงกตคิมยงเชจู ตั้งอยู่ระหว่างถ้ำมันจังกุลและถ้ำกิมเนียงกุล เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาะ



  • น้ำตกจองบัง น้ำตกแห่งเดียวในเอเชียที่ตกลงสู่ทะเล และเป็นหนึ่งในสามของน้ำตกที่ได้รับความนิยมสูงของเกาะเชจู การเดินทาง รถประจำทางสาย 2 จากซกวิโพ ลงที่น้ำตกจองบัง



  • เกาะมาราโด มีทัศนียภาพที่สวยงาม และมีหินรูปร่างแปลกๆ มากมาย การเดินทาง ขึ้นเรือแฟร์รี่จากท่าเรือเชจู โมซึลโพฮังหรือท่าเรือนิซูดองฮัง


▶ วิธีเดินทาง: 


  • เครื่องบินจากโซล (ขึ้นที่สนามบินคิมโป) ไปยังเชจู ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง



  • เครื่องบินจากปูซาน (ขึ้นที่สนามบินคิมแฮ) ไปยังเชจู ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง



  • เรือเฟอร์รี่ข้ามฟากจากปูซาน , มกโพ , อินชอน , วองโด , นกดง และนอลยกโด


▶ ช่วงเวลาที่ดี: ช่วงฤดูร้อนราวเดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม


▶ พักที่ไหนดี: โรงแรมเดอะ ชิลลา เชจู , ยูแอนด์ไอ เกสท์เฮาส์ , โรงแรมเคนซิงตัน เชจู


▶ วีซ่า: คนไทยสามารถเข้าไปในเกาหลีได้โดยไม่ต้องวีซ่า สามารถอยู่ได้นานถึง 90 วัน



N Seoul Tower หอคอยแห่งความโรแมนติก

หอคอยแห่งกรุงโซล (N Seoul Tower)
หอคอยแห่งกรุงโซล (N Seoul Tower)

หอคอยแห่งกรุงโซล (N Seoul Tower) หรือ นัมซานทาวเวอร์ (Namsan Tower) ตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน เป็นจุดชมวิวที่เห็นได้ทั่วทั้งกรุงโซล ที่นี่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คสำคัญที่ใครมาเกาหลีไม่ควรพลาด สามารถมาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะทั้งกลางวันและกลางคืนจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป แต่สวยไม่แพ้กันแน่นอน วัยรุ่นเกาหลีส่วนมากนิยมมากันในเวลากลางคืน ระหว่างทางที่นั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปจะตกแต่งด้วยไฟหลากสีสัน ทำให้บรรยากาศมีความโรแมนติกมาก และยังเป็นสถานที่ยอดฮิตที่คู่รักต่างพากันมาคล้องกุญแจคู่กัน เพราะเชื่อกันว่า คู่รักที่ได้มาคล้องกุญแจที่นี่จะรักกันยาวนานตลอดไป บนกุญแจก็จะมีข้อความน่ารักกุ๊กกิ๊กของคู่รักเขียนเอาไว้ด้วย ด้านล่างยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ และ พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์ (Teddy Bear Museum ) นอกจากนี้ยังขึ้นไปดูวิวกรุงโซลกันเต็มๆแบบ 360 องศา ได้อีกด้วย

เข้าดูข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับหอคอยแห่งกรุงโซลได้ที่ : หอคอยเอ็นโซล สัญลักษณ์ของกรุงโซล


 ที่ตั้ง : นัมซาน, โซล, ประเทศเกาหลีใต้

▶ วิธีเดินทาง: 

  • รถไฟใต้ดินสายที่ 3 และ 4 ลงที่สถานี Chungmuro ทางออกที่ 2 และขึ้นรถประจำทางสาย 2 ลง N Seoul Tower

  • รถไฟใต้ดินสายที่ 6 ลงที่สถานี Itaewon ทางออกที่ 4 และขึ้นรถประจำทางสาย 3 ลง N Seoul Tower


▶ ค่าเข้าชม: 


  • Observatory อายุมากกว่า 18 ปี 9,000 won อายุ 13 - 17 ปี 7,000 won อายุต่ำกว่า 12 ปี 5,000 won

  • Teddy bear Museum อายุมากกว่า 18 ปี 8,000 won อายุ 13 - 17 ปี 6,000 won อายุต่ำกว่า 12 ปี 5,000 won


▶ เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 


  • อาทิตย์ - พฤหัสบดี Observatory 10:00 - 23:00 น. Restaurant 11:00 - 23:00 น. Teddy Bear Museum 10:00 - 22:00 น.

  • ศุกร์ - เสาร์ Observatory 10:00 - 24:00 น. Restaurant 11:00 - 24:00 Teddy Bear Museum 10:00 - 18:00 น.


▶ วีซ่า: เที่ยวเกาหลีใต้ 90 วันไม่ต้องขอวีซ่า

▶ พักที่ไหนดี: Grand Field Residence Hostel 


จิ่วเฟิ่น เมืองสไตล์โบราณขนาดเล็กในไต้หวัน

หากคุณมีแพลนกำลังจะไปเที่ยวไต้หวัน ขอบอกเลยว่าคุณควรใส่จิ่วเฟิ่นไว้ในโปรแกรม เมืองขนาดเล็กสไตล์โบราณที่ตั้งอยู่บนเขา มีทัศนียภาพที่สวยงามที่ให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพบรรยากาศดีๆ และเดินเที่ยว ช็อป ชิม ชิล ได้ตามสบาย ตลอดสองข้างทางจะมีร้านอาหารมากมายให้ได้เลือกชิม และร้านน้ำชาที่โด่งดังมากมาย ทั้งยังมีจุดชมวิวสวยๆให้ได้ชม หากมองจากเขาลงมาแล้วจะเห็นทะเลที่ชวนหลงใหล แถมยังเป็นเมืองแห่งแรงบันดาลใจในการออกแบบเมืองในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง “Spirited Away” ของสตูดิโอจิบลิอีกด้วย


จิ่วเฟิ่น เมืองสไตล์โบราณขนาดเล็ก
จิ่วเฟิ่น เมืองสไตล์โบราณขนาดเล็ก
เข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ : จิ่วเฟิ่น เมืองสไตล์โบราณขนาดเล็ก

ที่ตั้ง: New Taipei City, Taiwan 224

วิธีเดินทาง: รถบัสสาย 1062 วิ่งตรงจาก Taipei 

ช่วงเวลาที่ดี: เปิดให้บริการทุกวัน

วีซ่า: ต้องขอวีซ่า อยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน

เข้าดูแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆอีกเพียบได้ที่ govivigo